ที่ขึ้นพาดหัวขนาดนี้.......ถ้าคุณไม่เคยมา ไม่เคยสัมผัส คงต้องนึกในใจว่า คนที่เขียนช่างเว่อร์ซะเนี่ยะกระไร แต่ผมเชื่อว่าคงมีไม่กี่แห่ง ในโลกนี้หรอกครับ ที่มีของเก่านับ หมื่นๆชิ้น วางโชว์อยู่ใน โชว์รูมและสโตร์ หลายจุด ซึ่งรวมพื้นที่แล้วร่วม 30,000 ตารางเมตร ..... "30,000" ไม่ได้พิมพ์ผิดนะครับ เลยต้องย้ำพิมพ์ถึงสองครั้ง อยู่ในย่านหางดงและบ้านถวาย ที่จังหวัดเชียงใหม่
ผมเองคลุกคลีอยู่ในวงการก่อสร้างโรงแรม มาไม่นานนัก ก็เพิ่งมาเริ่มเมื่อประมาณ สิบปีที่ผ่านมา... เริ่มจากเป็น Project manager ของโรงแรมที่โด่งดังอย่าง " ดาราเทวี " ก็อยู่มาตั้งแต่เริ่มสร้างจนขยายใหญ่ จนต้องจ้างมืออาชีพมาช่วยในตอนหลัง ..... และผมเอง ก็ได้มีโอกาสสร้างโรงแรมเล็กๆ ของตัวเอง ตั้งอยู่ด้านหน้าของ โรงแรม ดาราเทวี ชื่อ " Bann Tazala " อ่านเป็นภาษาไทยว่า บ้านท่าศาลา นั่นเอง ทั้งสองโรงแรม ตกแต่งแตกต่างกันไป แต่ก็เป็นที่แรกๆ ของเมืองเชียงใหม่ ที่นำเอา ของเก่า เริ่มมาตกแต่งในตัวโรงแรม
โดยเฉพาะที่ ดาราเทวี มีการตกแต่งด้วยของเก่า ที่เก่าแก่และงดงาม โดยฝีมือของ นักออกแบบ และ เซเลปคนดังของเมืองเชียงใหม่ อย่าง คุณ ราเชน (แต้ม) ที่เลือกสรร ของเก่าแต่ละชิ้น ที่สามารถเรียกได้ว่า Museum piece นับชิ้นไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นสไตลส์ล้านนา หรือ โคโลเนียล และ จีน มาตกแต่งใน โรงแรม " ดาราเทวี " ...... ส่วนใหญ่ก็หาซื้อมาจาก ร้าน De-Siam นี่เองหละครับ คงไม่ต้องอธิบายมากถึง คุณค่า และความงามของ ของเก่าแต่ละชิ้น ที่วางขายอยู่ในร้านนี้
การซื้อของเก่าในเชียงใหม่ และ ในประเทศไทยของเรา ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะต้องยอมรับว่า ที่เชียงใหม่ นอกจากเป็นแหล่งค้า ของเก่าจากทุกมุมโลกแล้ว ยังเป็นแหล่ง Re Product หรือ ของเลียนแบบของเก่า ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งนึงของโลกเช่นกัน ฉนั้นการเลือกซื้อของเก่าจะต้องตาถึงพอสมควร ที่สำคัญที่สุด ถ้าเป็นร้านที่คุณเชื่อถือได้ นั่นแหละครับสบายใจที่สุด
ที่ De Siam สิ่งที่มั่นใจได้ดีที่สุด สำหรับลูกค้าก็คือความซื่อตรงที่มีต่อลูกค้า ที่ทำให้กิจการของที่นี่โตวันโตคืน สวนกระแสเศรษฐกิจ ต้องยอมรับว่า บางครั้งลูกค้าอย่างพวกผมก็อยากได้ ของเลียนแบบ เพราะบางชิ้นของจริงมันหาไม่ได้ เนื่องจากอยู่ในพิพิธภัณท์ เราก็ทำได้แค่เอารูปมาให้ช่างดู แล้วก็สั่งทำในย่านบ้านถวาย ซึ่งต่อให้ช่างมีฝีมือดีสุดยอดขนาดไหน ก็สามารถดูออก แต่ที่นี่ของเค้าเก่าจริงไม่มีการเอาไปหมกดินแล้วขุดขึ้นมาขาย และไม่มีการย้อมแมว ที่สำคัญมากก็คือการไปเลือกซื้อของเก่า ของเจ้าของร้านสองพี่น้อง (คุณเอก และ คุฌตุ๋ย) ทั้งคู่เดินทางไปเลือกจากแหล่งด้วยตนเอง จากหลายประเทศ ไม่มีการซื้อจากนายหน้าที่เอารูปมาล่อนขายแบบที่อื่น
ของเก่าที่นี่มีหลายสไตลส์ จากหลายประเทศ ผมว่า ที่นี่เค้ามีคอลเลคชั่นของจีน มากที่สุดแห่งนึง บานประตูสวยๆ , ซุ้มประตูที่มีลวดลาย , หินแกะสลัก , โต๊ะเก้าอี้ , ตุ๊กตาและของวางโชว์...... ของอินเดีย , เนปาล ซุ้มประตูขนาดใหญ่ๆ เสาไม้ลวดลายสวยๆ ...... ของเก่าของพม่า , ไทยใหญ่ วางเรียงลายเป็นหมื่นๆชิ้น ถ้าจะให้มาเลือกกันคงต้องมี 1 วันเป็นอย่างน้อย ทุกครั้งที่ผมไปร้านนี้ ก็จะได้พบได้เจอกับ บรรดา สถาปนิก , มัณฑนากร(Interior Designer) จากทั่วทุกมุมโลก ทั้งฝรั่ง ไทย จีน คนเหล่านี้บินมาเชียงใหม่เพื่อมาเลือกซื้อ ชิ้นงามๆ ไปแต่งโรงแรม , บ้าน , ร้านอาหาร , สำนักงาน , ร้านค้า ......
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดอีกอย่างนึงก็คือ ร้านนี้(ที่สโตร์) มีคอลเลคชั่น ของ หลองข้าว หรือStorage ของชาวบ้านในภาคเหนือ ที่ใช้เก็บข้าวเปลือก เป็นคล้ายบ้านเล็กๆสองชั้นใต้ถุนโล่ง ถูกนำมาสร้างและจัดวางตกแต่ง สวนไว้สวยงาม และมีหลายแบบ หลายสไตลส์ จนแทบจะเป็นหมู่บ้านหลองข้าวเลยหละครับ แค่ไปนั่งดูตอนบ่ายๆก็มีความสุขแล้วครับ
การจับจ่ายซื้อของ ของที่นี่ไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องการจัดส่งเลยครับ เค้าสามารถส่งให้ได้ทุกมุมโลกเลยครับ ส่วนเรื่องราคาก็ขึ้นอยู่กับความเก๋าและความสมบรูณ์ ของแต่ละชิ้น ซื้อหลายชิ้นเค้าก็ลดให้เองโดยแทบไม่ต้องต่อ เวลาไปที่นี่ ลองถามหา ภรรยาที่แสนจะใจดีของคุณเอก เธอชื่อ " คุณเก๋ " ชมแกซักนิดว่ามีลูกแล้วยังสาว รับรองแกลดราคาแหลกจนลืมต้นทุนไปเลยละครับ 555
เอาหละครับวันนี้เอาพอหอมปากหอมคอ ยังมีเรื่องเกี่ยวกับร้านนี้อีกครับ ท่านใดอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เพราะผมไม่สามารถ นำรูปถ่ายของสินค้า ของร้านนี้มาลงให้ดูทั้งหมดได้แน่เลยครับ ก็ลองเข้าไปดูใน website นี้ครับ http://www.desiam-antiques.com/ หรือถ้าจะแวะไปดูก็หาไม่ยากเลยครับ โชว์รูม มีทั้งที่ริม ถนนใหญ่ทางไปหางดง ถึงก่อนปั๊มน้ำมันบางจาก ก่อนแยกบ้านถวาย หรือ จะเข้าบ้านถวายไปประมาณเกือบ 1 ก.ม. อยู่ขวามือตึกทรงโคโลเนียลแบบจีน ไปไม่ถูกก็แวะถามใครๆแถวๆนั้น ก็น่าจะรู้จักครับ หรือจะโทรไปสอบถามทางหรือรายละเอียดได้ที่
โทร 053 441 254
ป๋าปึกส์
14/10/2553ลองเข้าไปอ่าน รายการอาหารเด็ดๆ จากร้านโปรด ของผู้เขียน ข้างล่างดูนะครับ
: http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
: http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
: http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html
